.

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัท บี.เอ็ล.ฮั้ว จำกัด

  1. เกี่ยวกับนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

    บริษัท บี.เอ็ล.ฮั้ว จำกัด ซึ่งต่อไปในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้จะเรียกว่า “บริษัท” เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านการผลิต นำเข้า และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยา เครื่องมือแพทย์ เคมีภัณฑ์ ผ่านช่องทาง โรงพยาบาล คลินิก ร้านขายยาและร้านค้าปลีกสมัยใหม่ เป็นต้น

    บริษัทให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เป็นลูกค้า คู่สัญญา และ/หรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจกับบริษัท ซึ่งได้ยินยอมให้ข้อมูลส่วนบุคคลไว้กับบริษัท

    ดังนั้นนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้จึงจัดทำขึ้นเพื่อชี้แจงรายละเอียดและให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีความเข้าใจในแนวนโยบายเกี่ยวกับ การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทในเบื้องต้น เช่น การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งสิทธิต่าง ๆ ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น

  2. คำนิยาม

    ข้อมูลส่วนบุคคล หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้น เช่น ชื่อ นามสกุล, ที่อยู่, วัน เดือน ปีเกิด, เพศ, หมายเลขโทรศัพท์ส่วนบุคคล, หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน, เลขที่ในใบอนุญาตทำงาน, ที่อยู่อีเมล, ชื่อและเลขที่บัญชีเงินฝากธนาคาร, เลขบัตรเครดิต/เดบิต เป็นต้น ทั้งนี้ ให้หมายรวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้ สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรง หรือทางอ้อม

    เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หมายความว่า บุคคลธรรมดาซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

    ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บริษัท บี.เอ็ล.ฮั้ว จำกัด ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

  3. วัตถุประสงค์และวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

    (1) การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจะกระทำตามวัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมายของบริษัทและเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล เพียงเท่าที่จำเป็นเพื่อนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ หรือเปิดเผยเพื่อประโยชน์แก่การดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของบริษัท ดังต่อไปนี้

    • เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของบริษัท
    • เพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำร้องขอและ/หรือดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวข้องตามคำร้องขอของเจ้าของข้อมูลก่อนการซื้อผลิตภัณฑ์ หรือเข้าร่วมกิจกรรม และ/หรือการเข้าร่วมประชุม การเข้าร่วมสัมมนาต่าง ๆ กับบริษัท
    • เพื่อให้เจ้าของข้อมูลได้รับทราบข้อเสนอ สิทธิพิเศษ และ/หรือสิทธิประโยชน์ เช่น ส่วนลด ของแถม โปรโมชั่นต่าง ๆ รวมทั้ง คำแนะนำและข้อมูลข่าวสารการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ของบริษัท
    • เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการวิเคราะห์ และ/หรือปรับปรุงผลิตภัณฑ์และการบริการ รายการส่งเสริมการขายผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ รวมทั้งการพัฒนาและส่งเสริมผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน และดีขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า
    • เพื่อการติดต่อประสานงาน ตอบข้อซักถาม เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการ รวมทั้งการให้ข้อมูลเกี่ยวกับการบริการหลังการขาย การทำแบบสำรวจความพึงพอใจ การทำแบบสอบถาม การจัดการข้อร้องเรียนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ กรณีหากมีการสนทนาผ่านทางโทรศัพท์บริษัทอาจจะมีการบันทึกการสนทนาไว้ เป็นต้น
    • เพื่อการจัดเก็บเป็นฐานข้อมูลลูกค้า/ผู้มีอุปการคุณ
    • เพื่อการจัดทำสัญญา บันทึกข้อตกลง เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการทำสัญญา รวมทั้งการปฏิบัติหน้าที่และภาระผูกพันตามข้อตกลงและ/หรือสัญญาที่ทำกันไว้
    • เพื่อการจัดทำเอกสารเกี่ยวกับการชำระเงินและ/หรือการรับชำระเงิน เช่น ใบวางบิล ใบเสร็จรับเงิน ใบกำกับภาษี และ/หรือเอกสาร หลักฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการดังกล่าว
    • เพื่อการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ฝ่ายทรัพยากรบุคคล ฝ่ายขายและการตลาด ฝ่ายจัดซื้อ รวมทั้งตัวแทนจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของบริษัท หรือผู้ขนส่งผลิตภัณฑ์ของบริษัท
    • เพื่อประกอบการพิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติ ความรู้ ความสามารถ ความชำนาญ ประสบการณ์และความเหมาะสมของคู่ค้า ผู้ซื้อ ผู้ขายผลิตภัณฑ์ ตัวแทนจำหน่าย ผู้จัดหา ผู้ให้บริการ ผู้รับบริการ ผู้ว่าจ้าง ผู้รับจ้าง ที่ปรึกษา ในการคัดเลือก การประมูลและ/หรือการประกวดราคา เพื่อเข้าทำสัญญากับบริษัท
    • เพื่อปฏิบัติตามข้อบังคับ ระเบียบ หรือข้อกำหนดอื่น ๆ ตามกฎหมาย

    (2) การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลก่อนหรือในขณะทำการเก็บรวบรวมข้อมูล โดยจะแจ้งวัตถุประสงค์และรายละเอียดของการเก็บรวบรวม ทั้งนี้ การขอความยินยอมจะกระทำโดยชัดแจ้งตามวิธีการและ/หรือแบบฟอร์มที่บริษัทกำหนดไว้ ยกเว้น กรณีตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้เก็บได้โดยไม่ต้องขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล เช่น

    • เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
    • เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท
    • เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งเจ้าของข้อมูลเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลก่อนเข้าทำสัญญา
    • เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายของบริษัท

    (3) บริษัทจะไม่เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่จากเจ้าของข้อมูลโดยตรง เว้นแต่ บริษัทได้แจ้งการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งอื่นให้เจ้าของข้อมูลได้รับทราบภายในเวลา 30 วันนับแต่เก็บรวบรวม และได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล

    (4) การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นข้อมูลอ่อนไหว เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนา หรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ (เช่น ข้อมูลจำลองใบหน้า ข้อมูลจำลองม่านตา หรือข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ ) บริษัทจะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากเจ้า ของข้อมูล ยกเว้น กรณีตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้เก็บได้โดยไม่ต้องขอความยินยอม เช่น

    • เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของเจ้าของข้อมูลที่เจ้าของข้อมูลไม่สามารถให้ความยินยอมได้ไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม
    • เป็นข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะด้วยความยินยอมโดยชัดแจ้งของเจ้าของข้อมูล
    • เป็นการจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับ การวินิจฉัยโรคทางการแพทย์ การให้บริการด้านสุขภาพหรือด้านสังคม การรักษาทางการแพทย์ การป้องกันด้านสุขภาพจากโรคติดต่ออันตรายหรือโรคระบาดที่อาจติดต่อหรือแพร่เข้ามาในราชอาณาจักร เป็นต้น
  4. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม
    • ข้อมูลการติดต่อ ประสานงานของเจ้าของข้อมูลที่ให้ไว้กับบริษัท เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ ที่อยู่อีเมล ไอดีไลน์ เบอร์โทรศัพท์ส่วนบุคคล เป็นต้น
    • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาทะเบียนบ้าน
    • สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคาร หรือรายละเอียดเกี่ยวกับชื่อบัญชีและเลขที่บัญชีธนาคาร เลขที่บัตรเครดิต /เดบิต
    • เอกสาร หลักฐานเกี่ยวกับการชำระเงินและ/หรือรับชำระเงินต่าง ๆ
    • แบบสอบถาม แบบประเมินผล แบบสำรวจ แบบคำร้องขอ/คำร้องเรียนต่าง ๆ
    • บันทึกการสนทนาทางโทรศัพท์
    • รูปถ่าย ภาพถ่ายและ/หรือภาพเคลื่อนไหวในการเข้าร่วมกิจกรรมและ/หรือการเข้าร่วมประชุม การเข้าร่วมสัมมนาต่าง ๆ ที่บริษัทได้จัดให้มีขึ้น
    • ใบประกอบวิชาชีพ /ใบอนุญาต/ใบรับรองต่าง ๆ
  5. การใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

    (1) การใช้หรือเปิดเผยข้อมูลจะต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลและจะต้องใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตาม วัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้ต่อเจ้าของข้อมูล ยกเว้น เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่สามารถเก็บรวบรวมได้โดยไม่ต้องขอความ ยินยอมตามกรณีที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดไว้ตามตัวอย่างในข้อ 3. (2) หรือ (4)

    (2) ในกรณีที่บริษัทจะมีการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ ประเทศปลายทางที่รับข้อมูลส่วนบุคคลจะต้อง มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ ตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

  6. ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

    บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เท่าที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลดังกล่าวเท่านั้น หากบริษัทไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเก็บรักษาข้อมูลของท่านแล้ว บริษัทจะทำลาย ลบ หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็น ข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ เพื่อที่ข้อมูลดังกล่าวจะไม่มีความเชื่อมโยงถึงท่านอีกต่อไป

  7. สิทธิของเจ้าของข้อมูล

    (1) เจ้าของข้อมูลสามารถขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท หรือขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ตนไม่ได้ให้ความยินยอม

    (2) เจ้าของข้อมูลสามารถคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเมื่อใดก็ได้ ทั้งนี้ ตามกรณีที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด เช่น กรณีที่เป็นการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง เป็นต้น

    (3) เจ้าของข้อมูลสามารถขอรับหรือขอโอนข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตน ในกรณีที่บริษัทได้ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่าน หรือใช้งานโดยทั่ว ไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ

    (4) เจ้าของข้อมูลสามารถขอให้บริษัทดำเนินการลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไม่สามารถระบุตัวเจ้าของข้อมูลได้ ทั้งนี้ ตามกรณีที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด เช่น เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย หรือ เมื่อเจ้าของข้อมูลถอนความยินยอมและบริษัทไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นได้ต่อไป เป็นต้น

    (5) เจ้าของข้อมูลสามารถขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ ทั้งนี้ ตามกรณีที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด เช่น เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องลบหรือทำลายในกรณีที่ข้อมูลดังกล่าวถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายแต่เจ้าของข้อมูล ขอให้ระงับการใช้แทน เป็นต้น

    (6) เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถแจ้งให้บริษัทดำเนินการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง สมบูรณ์ เป็นปัจจุบัน และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

    (7) เจ้าของข้อมูลสามารถถอนความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ ทั้งนี้ การถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยที่เจ้าของข้อมูลได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบ

    (8) เจ้าของข้อมูลสามารถร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่บริษัทฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

  8. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

    บริษัทได้กำหนดให้มีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสมเพื่อปกปิดไว้เป็นความลับ และมีความถูกต้องครบถ้วน รวมทั้ง เพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือกระทำการใด ๆ ที่อาจทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลถูกนำไปใช้ หรือเปิดเผยโดยมิชอบ หรือทำให้เกิดความเสียหายกับเจ้าของข้อมูล รวมถึงการทบทวนมาตรการดังกล่าวเมื่อมีความจำเป็น หรือเมื่อเทคโนโลยี และ/หรือกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เปลี่ยนแปลงไปเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม

    บริษัทจำกัดการเข้าใช้งานข้อมูลส่วนบุคคลไว้เพียงพนักงาน หรือผู้รับจ้าง ที่จำเป็น ต้องรู้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อดำเนินการ ต่างๆในนามของบริษัท บุคคลเหล่านี้มีหน้าที่ปฏิบัติตามข้อกำหนดในการรักษาข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่เป็นความลับ และอาจถูกเลิกจ้างรวมถึงดำเนินคดีทางอาญาหากฝ่าฝืนข้อกำหนดเหล่านี้

  9. ข้อมูลการติดต่อบริษัท

    ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
    บริษัท บี.เอ็ล.ฮั้ว จำกัด สำนักงาน เลขที่ 2 ซอยสิทธิเกษม ถนนสมเด็จเจ้าพระยา
    แขวงสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน กรุงเทพฯ 10600
    โทร: 02 437 0154-5
    เว็บไซต์: www.blhua.com

  10. การเปลี่ยนแปลงแก้ไขนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

    บริษัทจะทำการพิจารณาตรวจสอบและทบทวนนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติและกฎหมาย ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงนโยบายดังกล่าวโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า



ประกาศ ณ วันที่ 1 มิถุนายน 2565